วันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2559

หมา3



 ว่ากันด้วยเรื่องความ "ดุ" ของสุนัข ... ข่าวพาดหัวหน้าหนึ่งที่เราได้พบกันบ่อยครั้งคือการที่สุนัขซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่ซื่อสัตย์นั้นได้ทำร้ายคน จนได้รับบาดเจ็บหรือบางครั้งรุนแรงมากจนถึงขั้นเสียชีวิต

     เวลาได้ยินข่าวแบบนี้คนส่วนใหญ่มักจะมุ่งประเด็นไปที่ตัวของสุนัขก่อนเลยว่า เป็นสุนัขสายพันธุ์อะไร พันธุ์ดุ หรือเปล่า ถ้าหากเป็นสายพันธุ์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความดุซึ่งเป็นข่าวให้เราเห็นกันบ่อยๆ เช่น พิทบูล เทอร์เรีย , ร็อตไวเลอร์ , บางแก้ว ฯ คนทั่วไปก็มักจะมองว่าเป็นเพราะสุนัขเหล่านี้มีนิสัยดุร้าย ไม่เหมาะที่จะนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงใกล้ตัวคน เพราะอาจจะทำอันตรายได้ทุกเมื่อ

Dogilike.com :: เลี้ยงสุนัขผิดๆ มีสิทธิ์ทำให้สุนัข ดุ ได้โดยไม่รู้ตัว!!

     ... จริงๆ แล้วความคิดนี้จะว่าไปก็ไม่ถือว่าผิดเสียทีเดียว เพราะว่า "ความดุ" ของสุนัขนั้น ส่วนหนึ่งก็มีผลมาจากสายพันธุ์ของสุนัข ซึ่งส่วนใหญ่แล้วสุนัขที่มีนิสัยค่อนข้างดุจะเป็นสุนัขสายพันธุ์ใหญ่ที่อยู่ในกลุ่มสายพันธุ์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใช้งานหนักๆ เช่น สุนัขในกลุ่มเฝ้าระวังในการเลี้ยงสัตว์ (เลี้ยงไว้เพื่อ ต้อนวัว ต้อนแกะ ไล่หมี ฯลฯ) หรือสุนัขในกลุ่มที่เลี้ยงไว้เพื่ออารักขา ระวังภัย

     ส่วนใหญ่สุนัขเหล่านี้จะมีสัญชาตญาณในการเป็นนักล่าและนักสู้สูง ประสาทการรับรู้ไว ตื่นตัวอยู่เสมอเมื่อมีสิ่งเร้าหรือแรงกระตุ้นต่างๆ ... แต่ทั้งนี้ ปัจจัยในเรื่องของสายพันธุ์ของสุนัขนั้น ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นที่จะเป็นสิ่งที่บ่งชี้ได้ว่าสุนัขตัวนั้นอาจมีนิสัยดุหรือก้าวร้าว เพราะในความเป็นจริงแล้ว ปัจจัยที่สำคัญกว่าเรื่องของสายพันธุ์ของสุนัข ที่จะสามารถบ่งบอกได้ว่าสุนัขจะดุหรือไม่นั้นอยู่ที่้"ลักษณะวิธีการเลี้ยงดู" และ"พฤติกรรมที่เจ้าของปฏิบัติกับสุนัขของตัวเอง" เสียมากกว่า



ไม่ว่าสุนัขสายพันธุ์ไหนก็ "ดุ" ได้ถ้าเลี้ยงผิดวิธี


     ไม่ว่าจะเป็นหมาไทย หรือหมาเทศ ตัวใหญ่ หรือตัวเล็ก หูตั้ง หรือหูตูบ ก็มีสิทธิ์ที่จะเป็นสุนัขที่จะดุได้ ไม่จำเป็นเลยค่ะที่สุนัขดุ จะต้องเป็นสุนัขตัวใหญ่หน้าโหดเท่านั้น ... เพราะส่วนใหญ่แล้วพฤติกรรมดุร้าย ก้าวร้าว ของสุนัข มักจะเกิดมาจากลักษณะการเลี้ยงดูของผู้เลี้ยง ที่มีความเข้าใจผิดๆ ในการเลี้ยงสุนัข

Dogilike.com :: เลี้ยงสุนัขผิดๆ มีสิทธิ์ทำให้สุนัข ดุ ได้โดยไม่รู้ตัว!!

     อย่างในผู้เลี้ยงสุนัขตัวใหญ่สายพันธุ์ดุหลายคน มักจะคิดว่าสุนัขของตัวเองไม่เหมาะกับการพาออกไปเข้าสังคม เนื่องจากยากต่อการควบคุม กลัวจะเกิดอันตรายต่อคนอื่น ดังนั้นจึงเลือกที่จะขัง หรือกักบริเวณสุนัขเอาไว้เพื่อความปลอดภัยและไม่ต้องเสี่ยงต่อการรับผิดชอบต่ออันตรายที่อาจเกิดขึ้น

     ... เพื่อนๆ ทราบหรือเปล่าคะว่า พฤติกรรมการเลี้ยงสุนัขแบบนี้ล่ะค่ะ ที่เป็นสิ่งที่ส่งผลให้สุนัขมีนิสัยดุและก้าวร้าว เนื่องจาก สุนัขนั้นเป็นสัตว์สังคม การที่สุนัขไม่ได้พบปะผู้คน หรือสุนัขตัวอื่นๆ บวกกับการที่ถูกกักขัง หรือล่ามไว้ตลอดเวลา จะทำให้สุนัขเกิดความระแวงต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัว เนื่องจากอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความกดดัน ทำให้สุนัขเกิดความเครียด เมื่อได้รับอิสระสุนัขอาจมีพฤติกรรมก้าวร้าวและดุร้ายได้

     นอกจากนี้ การเลี้ยงสุนัขโดยไม่ให้เขารู้จักเข้าสังคม ยังทำให้สุนัขขาดการเรียนรู้และการใช้สัญชาตญาณต่างๆ เพื่อที่จะอยู่ร่วมกันสุนัขตัวอื่นๆ หรือสมาชิกคนอื่นๆ ที่อยู่ในครอบครัว (หรือบริเวณใกล้บ้าน) สุนัขอาจจะไม่สามารถแยกได้ว่าใครเป็นมิตรหรือศัตรู ... ด้วยเหตุผลเหล่านี้ การเข้าสังคมจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับสุนัข ไม่ว่าจะสายพันธุ์ไหนก็ตาม

Dogilike.com :: เลี้ยงสุนัขผิดๆ มีสิทธิ์ทำให้สุนัข ดุ ได้โดยไม่รู้ตัว!!

     หรือในกรณีที่ผู้เลี้ยงสุนัขสายพันธุ์เล็ก (ตัวฟู หน้าตาบ้องแบ๊วน่ารัก) ที่ชอบเลี้ยงสุนัขของตัวเองเหมือนเลี้ยงเด็กตัวเล็กๆ ชอบโอ๋ ชอบตามใจ (เรียกง่ายๆ ว่าสปอยล์ นั่นล่ะค่ะ) เวลาสุนัขเห่า ส่งเสียงดังโวยวาย หรือมีท่าทีที่จะทำร้ายคนแปลกหน้า ก็มักจะไม่ดุหรือห้าม เพราะคิดว่าเป็นสุนัขพันธุ์เล็ก คงไม่สามารถทำอันตรายต่อใครได้

     ... การปล่อยให้สุนัขมีนิสัยแบบนี้ไปเรื่อยๆ โดยที่ผู้เลี้ยงไม่ดุ ไม่เตือน ไม่หาวิธีควบคุมจะเป็นการที่ทำให้สุนัขเคยตัว และคิดว่าสิ่งที่ทำนั้นถูกต้อง ซึ่งในระยะยาวก็จะส่งผลให้เขากลายเป็นสุนัขตัวเล็กๆ ที่มีนิสัยความก้าวร้าวได้ 

Dogilike.com :: เลี้ยงสุนัขผิดๆ มีสิทธิ์ทำให้สุนัข ดุ ได้โดยไม่รู้ตัว!!

     การเล่นกับสุนัขด้วยวิธีการผิดๆ ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้สุนัขมีนิสัยก้าวร้าวได้ โดยที่ผู้เลี้ยงเองอาจไม่รู้ตัว เช่น ผู้เลี้ยงบางคนชอบแกล้งยั่วยุสุนัขให้โกรธ ด้วยการเขย่าหัวแรงๆ , ล่อให้สุนัขกัดสิ่งของต่างๆ หรือยั่วยุให้โกรธด้วยท่าทาง ใช้มือล่อให้สุนัขกัด ฯ การเล่นในลักษณะนี้จะเป็นการกระตุ้นให้สุนัขใช้ความรุนแรง โดยขาดการควบคุม และถ้าหากผู้เลี้ยงเล่นกับสุนัขด้วยวิธีการในลักษณะนี้เป็นประจำ สุนัขก็จะมีนิสัยที่ก้าวร้ายรุนแรงติดตัวไป และยิ่งปล่อยไว้นานเท่าไหร่ ก็จะยิ่งยากต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม



ผู้เลี้ยงที่ดีต้องรู้จักสุนัขของตัวเอง และใช้จิตวิทยาในการเลี้ยงสุนัข


     การรู้จักสุนัขของตัวเองนั้น เราจะต้องรู้จักเขาทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ ผู้เลี้ยงจะต้องรู้จักอารมณ์ของสุนัขของตัวเองในแต่ละช่วงว่า มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหรือไม่ และต้องวิเคราะห์ให้ได้ว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไร

     อย่างทางด้านร่างกาย สุนัขอาจมีอารมณ์ก้าวร้าวหรือดุ ได้ในช่วงที่ฮอร์โมนของเขาเปลี่ยนแปลง เช่น ช่วงติดสัด ช่วงที่สุนัขตั้งท้อง ช่วงเลี้ยงลูก หรืออาจเกิดจากการที่ร่างกายของสุนัขมีความผิดปกติ มีอาการเจ็บป่วยตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น ปวดฟัน ปวดท้อง หรืออาจมีบาดแผล เป็นต้น

     ส่วนในด้านของจิตใจนั้น เป็นเรื่องที่ผู้เลี้ยงเองต้องรู้จักใช้ความเข้าใจและใช้จิตวิทยาในการเลี้ยงสุนัข โดย ผู้เลี้ยงจะต้องเข้าใจสาเหตุของพฤติกรรมดุหรือก้าวร้าวของสุนัขก่อนว่าเกิดจากอะไร เช่น สุนัขมีพลังงานสูง มีความเป็นผู้นำสูง ถ้าหากผู้เลี้ยงไม่รู้จักวิธีการจัดการกับพลังงานในร่างกายสุนัขที่มีอย่างเหลือเฟือ ก็อาจจะทำให้สุนัขมีพลังงานเหลือมากเกินไป และมีความต้องการที่จะระบายพลังงานดังกล่าว จึงแสดงออกมาในรูปแบบของพฤติกรรมก้าวร้าวและดุดัน เนื่องจากไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ โดยอาจมีพฤติกรรม เห่าหอนมากผิดปกติ หวงที่อยู่ หวงของ ขุด กัด ทำลายข้าวของภายในบ้าน ไล่ผู้ที่เข้ามาในอาณาเขตของตนเอง เป็นต้น

Dogilike.com :: เลี้ยงสุนัขผิดๆ มีสิทธิ์ทำให้สุนัข ดุ ได้โดยไม่รู้ตัว!!

     สำหรับหลักจิตวิทยาง่ายๆ ที่จะสามารถช่วยแก้ปัญหาพลังงานอันล้นเหลือของสุนัขได้นั้น ผู้เลี้ยงอาจใช้วิธีชวนสุนัขทำกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นการออกกำลังกาย เช่น เล่นโยนรับลูกบอล , เล่นซ่อนหาของ หรืออาจพาสุนัขไปวิ่งทุกเย็น ฯลฯ การให้สุนัขทำกิจกรรมเหล่านี้เป็นประจำจะช่วยให้สุนัขสามารถควบคุมพลังงานของตัวเองได้ดีขึ้น

     หรือในกรณีที่สุนัขไม่ได้มีพลังงานมากมายนัก แต่บังเอิญว่าในบ้านของผู้เลี้ยงไม่มีใครทำหน้าที่เป็น "จ่าฝูง" (อาจจะเลี้ยงสุนัขตัวเดียว และผู้เลี้ยงตามใจไม่ควบคุม ห้าม ดุ หรือฝึกเพื่อให้อยู่ภายใต้คำสั่ง)สุนัขเลยวางตำแหน่งของตัวเองให้อยู่ในตำแหน่งสูงสุดของบ้าน นั่นคือการเป็นจ่าฝูง ทำให้สุนัขรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้นำ ไม่ฟังคำสั่งใคร และยังแสดงอำนาจข่มสมาชิกคนอื่นๆ ในครอบครัว -*-
Dogilike.com :: เลี้ยงสุนัขผิดๆ มีสิทธิ์ทำให้สุนัข ดุ ได้โดยไม่รู้ตัว!!

     เห็นไหมคะว่า จริงๆ แล้วปัจจัยที่สำคัญที่จะมีผลต่อสุนัขของเราว่าจะดุหรือไม่ดุนั้น จริงๆ แล้วอยู่ที่การเลี้ยงดูและพฤติกรรมของผู้เลี้ยงเองเสียเป็นส่วนใหญ่ ส่วนเรื่องของสายพันธุ์นั้นถึงแม้จะมีผลบ้าง แต่ก็ไม่สำคัญเท่ากับเรื่องของวิธีการเลี้ยงดูที่ถูกต้องหรอกค่ะ ... เพราะถ้าหากเรารู้จักวิธีการเลี้ยงสุนัขที่ถูกต้องแล้ว ไม่ว่าเราจะเลี้ยงสุนัขที่ขึ้นชื่อว่าดุแค่ไหน เราก็สามารถปรับและควบคุมเขาให้เป็นสุนัขที่เป็นมิตรและปลอดภัยต่อคนรอบข้างได้ค่ะ
                                                   


                                                     ที่มา http://www.improvingdog.com/Aggressive-Dog-Behavior.html

หมา2


                             เลี้ยงหมาดุให้เชื่อง. 
              

             ตอนนี้หลายคนคงผวา เมื่อรู้ว่าเจ้าตูบที่บ้านอยู่ในอันดับหมาดุเสียแล้ว แต่อย่าเพิ่งตกใจเพราะไม่ใช่ว่าทุกตัวจะดุทั้งหมด การยับยั้งความดุร้ายของสุนัขตามสัญชาตญาณสามารถควบคุมได้ เมื่อคนนำมาฝึกให้เชื่อฟังคำสั่งความดุร้ายจะถูกลดทอนลง ทำให้คนเลี้ยงและสุนัขมีสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดู การให้ความรัก การเอาใจใส่จากเจ้าของ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก เพราะสุนัขก็มีหัวใจ มีความรู้สึกไม่ต่างจากคน
       
       ร.ท.อำพล บำรุงไทย ครูฝึกสุนัข โรงเรียนสุนัขทหาร ศูนย์การสุนัขทหาร กรมการสัตว์ทหารบก กล่าวถึงคำจำกัดความที่ว่า“ความดุ” ต้องอยู่ใน “การควบคุม” ว่า ถึงแม้เราจะเลี้ยงสุนัขด้วยอาหารดีแค่ไหน แต่ถ้าไม่ฝึกให้สุนัขเชื่อฟังคำสั่งพื้นฐาน เขาก็ไม่รู้ความต้องการของเรา เมื่อสุนัขดุแล้วเราควบคุมไม่ได้มันจึงอันตรายมาก สำหรับในโรงเรียนฝึกสุนัขทหาร การลดความดุของสุนัข คือการฝึกให้เชื่อฟังคำสั่ง นี่แหละคือหัวใจของมัน
       
       “การฝึกเชื่อฟังคำสั่งเป็นการระงับการแสดงตามอารมณ์ของตัวเอง ถ้าเราเป็นคนฝึก แสดงว่าเราเป็นผู้บังคับ สุนัขก็จะเชื่อฟังคำสั่งเรา หากสุนัขมีความดุในสายเลือดของมัน แต่นำมาฝึกให้เชื่อฟังคำสั่งเราจะสามารถควบคุมได้”
       
       “สุนัขที่ใช้ทางทหารมี 4 สายพันธุ์หลักคือ พันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ด, ลาบราดอร์, ร็อตไวเลอร์ และโดเบอร์แมน จะเห็นว่ามีแต่พันธุ์ดุๆ ตัวใหญ่ๆ คมเขี้ยวแข็งแรง ซึ่งแต่ละตัวถูกฝึกมาตามวัตถุประสงค์ และรับรองว่าถ้าออกไปข้างนอกไม่มีกัดคนแน่นอน เพราะถูกฝึกให้เชื่อฟังคำสั่งจึงควบคุมได้ทั้งหมด”
       
       ในกรณีฝึกเชื่อฟังคำสั่งสำหรับผู้เลี้ยงทั่วไป กระทำโดยการผูกสายจูง และห้ามโดยใช้เสียงสั่งว่า “ไม่” ในขณะที่สุนัขทำในสิ่งที่เราไม่ต้องการ สิ่งไหนที่สุนัขแสดงออกมา แต่เราไม่ต้องการจึงต้องฝึกควบคุม เมื่อทำอย่างนี้ทุกวันสุนัขจะเชื่อฟังคำสั่ง จึงเป็นการห้ามเพื่อไม่ให้พฤติกรรมของสุนัขที่เราไม่ต้องการเหล่านั้นเกิดขึ้นอีกในอนาคต อย่างน้อยถ้าเราไม่ฝึกเป็นทางการก็ควรฝึกการควบคุมพฤติกรรมของมัน อาจฟังเหมือนง่าย แต่ถ้าอยากให้สุนัขเป็นเพื่อนแท้ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก
       
       “การฝึกควบคุมจะต้องทำด้วยท่าทางและห้ามด้วยเสียง ยิ่งสุนัขเล็กจะควบคุมง่าย ถ้าฝึกเดินออกไปข้างนอกบ่อยๆ ทำให้สร้างความคุ้นเคยกับคน ไม่หวาดระแวง เพราะสัญชาตญาณของสุนัขคือการต่อสู้ ความดุร้ายขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ซึ่งเหมาะกับการเลี้ยงหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการนำไปใช้ เช่น สุนัขเฝ้าบ้านและสุนัขเลี้ยงดูเล่นก็ต้องเลือกสายพันธุ์ที่แตกต่างกัน”
       
       แต่หลักๆ ในการควบคุมสุนัข คือต้องให้ความรัก ความเมตตา พาเข้าสังคมเพื่อสร้างความคุ้นเคย เพราะการป้องกัน คือการเลี้ยงดู ถ้าเป็นเจ้าของแต่ไม่ได้ดูแลก็จะถูกกัดได้ และถ้ายิ่งเอาไปขังกรง สุนัขจะยิ่งเกิดความเครียด โดยเฉพาะสุนัขที่ดุตามสายพันธุ์ของมันแล้ว อย่างร็อตไวเลอร์ และ อเมริกัน พิทบูลล์ เทอร์เรีย ก็จะยิ่งกระตุ้นความดุร้าย เมื่อไม่เคยถูกฝึกควบคุม สุนัขก็จะไม่เชื่อฟัง
       
       “การเลี้ยงสุนัขต้องออกสังคมตั้งแต่วัยเด็ก หมายถึงการสร้างความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมทั่วๆ ไป แต่ที่เกิดปัญหาก็คือ สุนัขที่เลี้ยงอยู่ในบ้านไม่เคยออกไปไหนเลย จึงเหมือนการถูกคุมขัง ทำให้สภาพจิตใจสูญเสียความเป็นอิสรภาพ และเมื่อมีโอกาสก็จะแสดงออกตามใจตัวเอง”






หมา1







สนัขสายพันธุ์ดุ
     
            ซ้ำแล้ว...ซ้ำเล่าที่เห็นสุนัขสายพันธุ์ดุจองพื้นที่หน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์บ้านเราอยู่เป็นระยะๆ หลายคนถูกขย้ำบาดเจ็บสาหัส และที่ร้ายแรงที่สุดถึงขั้นเสียชีวิตก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว และบ่อยครั้งที่เหยื่ออันโอชะนั้นเป็นเจ้าของเสียเอง โดยไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าเพื่อนยากที่อยู่ด้วยกันมานาน วันหนึ่งจะฆาตกรรมกันอย่างไม่ทันระวังตัว...
       
       ตามสัญชาตญาณสัตว์ สุนัขเป็นนักล่ามาแต่ครั้งอดีต ผู้เลี้ยงจึงต้องเรียนรู้ในธรรมชาติของสุนัขแต่ละสายพันธุ์ เพื่อให้คนรักสุนัขได้ระวังตัวในช่วงเวลาที่ไม่สบอารมณ์ของมัน และเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นโดยไม่คาดคิด เราจะได้เตรียมรับมืออย่างทันท่วงที
       
       สายพันธุ์สุนัขที่คนต้องผวา
       ความดุร้ายไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดของตัว หมาเล็ก-หมาใหญ่ก็กัดได้เหมือนกัน เพียงแค่ตัวไหนเขี้ยวจะฝังลึกกว่ากันเท่านั้นเอง M-Pet จึงจัดอันดับสายพันธุ์สุนัขดุที่สุดที่คนไทยนิยมเลี้ยง โดยสอบถามข้อมูลความรู้จากทีมสัตวแพทย์คลินิกพฤติกรรม โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ 
       
      
สายพันธุ์สุนัขที่ดุที่สุดในไทย1.ร็อตไวเลอร์ (Rottweiler)
       ครองความดุเป็นอันดับหนึ่งมาหลายสมัย ถือเป็นสุนัขพันธุ์ดุที่สุดที่คนไทยนิยมเลี้ยง ก่อนหน้านี้เคยเป็นข่าวว่ากัดคนอยู่ระยะหนึ่ง และถือว่าเป็นพันธุ์ที่กัดคนค่อนข้างบ่อย จึงทำให้คนนิยมเลี้ยงลดลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะเด็กต้องระวังให้ดี เพราะด้วยสัญชาตญาณนักล่าที่อยู่ในตัว และถูกฝึกมาให้ล่าสัตว์เล็ก เช่น กระต่าย นกยูง ทั้งนิสัยที่ดุไม่ค่อยรู้เรื่อง ไม่ไตร่ตรองว่าจะเป็นเจ้าของหรือใครทั้งนั้น อาจด้วยเพราะเป็นสุนัขขี้หงุดหงิด ดื้อเงียบ จึงควบคุมยาก และบางครั้งอาจทำให้เจ้าของเจ็บตัวโดยไม่ได้ตั้งใจ ด้วยความที่มีพละกำลังมากนั่นเอง
       
      
สายพันธุ์สุนัขที่ดุที่สุดในไทย             2.บางแก้ว (Bangkaew)
       “บางแก้ว” เป็นสุนัขพันธุ์ไทยแท้ ที่คนไทยต้องยกโล่ให้แก่ความดุของมันอีกพันธุ์หนึ่ง ส่วนใหญ่คนนิยมเลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน เพราะด้วยนิสัยที่ดุมาก เมื่อไม่พอใจจะกัดทันที โดยบางครั้งไม่แสดงอากัปกิริยาการเห่าเลย และมีให้เห็นบ่อยครั้งที่เจ้าของโดนกัดเสียเองแม้ว่าจะกระดิกหางอยู่ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่กัด เมื่อเทียบความดุอาจมีมากถึง 7 ใน 10 ตัวเลยทีเดียว
       
     




สายพันธุ์สุนัขที่ดุที่สุดในไทย    3.ไทยหลังอาน (Thai Ridgeback)
       "ไทยหลังอาน” เป็นสุนัขพันธุ์ไทยแท้อีกพันธุ์หนึ่งที่ดุไม่แพ้พันธุ์บางแก้ว ซึ่งระดับความดุอาจไม่เทียบเท่า แต่มีพละกำลังค่อนข้างมาก เนื่องจากมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง นิสัยของพันธุ์ไทยหลังอานจะไม่ค่อยขู่คน แต่กัดเลย เพราะการเลี้ยงดูและถูกฝึกมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษให้เฝ้าบ้าน ป้องกันภัย จึงมีนิสัยค่อนข้างฉลาด และดุเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
       
    



สายพันธุ์สุนัขที่ดุที่สุดในไทย      4.โดเบอร์แมน (Doberman)
       เมื่อก่อนคนนิยมเลี้ยงค่อนข้างมาก แต่ปัจจุบันไม่ค่อยมีคนเลี้ยงแล้ว เป็นสุนัขค่อนข้างฉลาด ฝึกง่าย นิยมลี้ยงไว้เฝ้ายาม (Guard dog) จึงมีนิสัยค่อนข้างดุพอสมควร แต่ไม่เท่าพันธุ์ร็อตไวเลอร์ และค่อนข้างรู้เรื่องว่าต้องดุกับใคร เช่น คนที่แต่งตัวลุ่มลาม มีกลิ่นเหม็น กลุ่มนี้จะเข้าข่ายถูกจู่โจมได้ง่าย ในยุโรปเป็นสุนัขพันธุ์หนึ่งที่ใช้ล่าเนื้อ เพราะความปราดเปรียวและโครงร่างที่สูงใหญ่ของมันนั่นเอง
       
       


สายพันธุ์สุนัขที่ดุที่สุดในไทย       5.เยอรมัน เชพเพิร์ด (German Shepherd)
       “เยอรมัน เชพเพิร์ด” หรือบางคนเรียกว่าอัลเซเชียน (Alsatian) เป็นสุนัขพันธุ์หนึ่งที่ขึ้นชื่อว่าฉลาดที่สุด และถือว่ามีความดุมากไม่แพ้กัน ด้วยขนาดตัวที่ใหญ่พอๆ กับร็อตไวเลอร์ มีเขี้ยวเล็บแหลมคม ว่องไว ถ้าเจ้าของไม่ฝึกควบคุมให้เชื่อฟังคำสั่ง อาจทำร้ายคนอื่นได้ แต่ไม่ค่อยเกิดเหตุการณ์ร้ายๆ จากสุนัขพันธุ์นี้เท่าไหร่ จึงอยู่ในคราบพระเอกมากกว่าผู้ร้าย
       
      
                                                6.อเมริกัน พิทบูลล์ เทอร์เรีย (American Pit Bull Terrier)
สายพันธุ์สุนัขที่ดุที่สุดในไทย       ขึ้นชื่อว่าเป็นสุนัข Fighting dog ซึ่งในต่างประเทศนิยมเลี้ยงเอาไว้กัดกัน จึงถือเป็นเกมกีฬาอย่างหนึ่ง เพราะโครงสร้างที่แข็งแรงและลักษณะนิสัยในการต่อสู้ที่ไม่ยอมแพ้ ถ้าอีกตัวยังไม่ตายก็จะไม่เลิกรา จึงเป็นนักสู้และดุร้ายเฉพาะสัตว์ด้วยกัน จริงๆ แล้วพันธุ์นี้จะไม่ดุกับคน และรักเจ้าของมากด้วยซ้ำ เพียงแต่ไม่ค่อยแสดงออก จึงเป็นเรื่องน่าตกใจจากข่าวที่ผ่านมาว่ากัดคนถึงตาย สาเหตุหนึ่งอาจเพราะจำนวนคนที่กำลังนิยมเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้ในเมืองไทยเพิ่มขึ้นด้วย จึงมีโอกาสตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งมากกว่าสายพันธุ์อื่นๆ
       
      



สายพันธุ์สุนัขที่ดุที่สุดในไทย



             7.บูลล์เทอร์เรีย (Bull Terrier)
       คนส่วนใหญ่จะเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้ไว้เป็นเพื่อนเล่น เพราะมีหน้าตาตลกและนิสัยที่น่ารัก แต่อีกมุมหนึ่งของ “บูลล์เทอร์เรีย” ถือเป็น Fighting dog เช่นเดียวกับ อเมริกัน พิทบูลล์ เทอร์เรีย จึงมีเลือดนักสู้อยู่ในตัวไม่ต่างกัน







http://www.manager.co.th/